ความฝัน กับ ความจริง ในมุมมองพุทธศาสนา

“ฝัน” หมายถึง การเห็นเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อหลับ นี่เป็นความหมายโดยตรง นอกจากนี้ยังมี ความหมายโดยอ้อมอีก ๒ ประการ คือ การนึกเห็นในขณะที่ตื่นอยู่ซึ่งไม่อาจจะเป็นจริงได้ การคิด เรื่อง/สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แบบนี้เรียกว่า ฝันกลางวัน กับการคิดฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ แบบนี้เรียกว่า ฝันเฟื่อง ในที่นี้จะกล่าวถึง “ฝัน” ที่หมายถึง การเห็นเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อหลับ ทีนี้มาพูดถึงเรื่อง “ความจริง” “จริง” หมายถึง แท้แน่นอน เป็นอย่างนั้นจริง(อย่างที่เราประสบ) มี ๓ ลักษณะคือ ปรากฏการณ์ที่ประจักษ์แก่ตัวเราเองและผ่านมาแล้ว ปรากฏการณ์ที่ประจักษ์แก่เราในปัจจุบัน และ ปรากฏการณ์ที่ยังไม่ประจักษ์แก่เราซึ่งเราคิด(วางแผน/คาดการหรืออะไรก็แล้วแต่)อาจจะเกิดขึ้นแล้ว หรือยังไม่เกิดขึ้นแต่มาประจักษ์แก่เราในภายหลัง สรุปก็คือจริงอย่างที่ประจักษ์/ปรากฏ “ความจริง” ในที่นี้จะขอพูดถึง การเห็นเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อตื่น เพื่อให้มีนัยตรงกันข้ามกับ ค าว่า “ความฝัน” เพราะส่วนมากเรามอง “ความฝัน” ว่าเป็นเรื่องไม่จริง แม้เวลาต่อมาจะมี เหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามที่ฝันหรือไม่นั้น เราก็ไม่ค่อยให้ความส าคัญเท่าไรแล้ว หรือบางทีก็ลืมไปแล้ว ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตรงกับที่ฝัน